@(>_<)@ MY BEAUTY MOMENT"

Thursday, December 20, 2007

เรื่องเล่าจากแดน.....ที่มีมากกว่าพิซซ่าและหอเอน**5

แล้วก็ถึงเวลากลับบ้าน........... 7 กรกฎาคม 2550 พวกเรา 20 คน ที่จากเมืองไทยไปเมื่อ 10 เดือนที่แล้วก็กลับถึงบ้าน แต่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของดิฉันมาไม่ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพราะเกิดความผิดพลาดขณะพวกเราเปลี่ยนเครื่องบินที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย แล้วอีก 2 วันต่อมา กระเป๋าถึงจะกลับมาถึงบ้าน.....
1 ปี ( ที่จริง แค่ 10 เดือน ) บางคนอาจจะบอกว่านาน บางคนอาจจะบอกว่าสั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้เวลานั้นอย่างไร ถ้าเราทำทุกวันให้เป็นวันที่พร้อมจะเรียนรู้และทำกิจกรรมต่างๆ ก็จะรู้ได้ว่าแต่ละวันนั้นผ่านไปเร็วมาก และเมื่อถึงเมื่อวันนั้นผ่านไปแล้ว อย่างเช่น วันที่กำลังนั่งพิมพ์เรื่องนี้และทำให้ได้นึกถึงว่าเมื่อ วันที่ 12 กันยายน ปีที่แล้ว เป็นวันแรกที่ต้องไปโรงเรียนและเรียนอะไรไม่รู้เรื่องเลย เพื่อนก็ไม่มีสักคน แต่พอนึกถึงเดือนมีนาคมที่ Florenze ที่เคยหัวเราะเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็ยิ่งทำให้คิดว่าเวลาเดินเร็วไปรึป่าวนะ.......ประสบการณ์ 10 เดือนที่อิตาลีถ้าจะให้เล่าทุกสิ่งทุกอย่าง หน้ากระดาษ 111 หน้าจะพอรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่สิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้มากับตัวเองแล้วว่าสิ่งที่พ่อเคยพูดให้ฟังตั้งแต่ยังไม่เห็นว่ามันสำคัญนั้น ตอนนี้รู้แล้วว่าสำคัญขนาดไหน และเป็นความจริงที่พูดง่ายๆ แต่ยากที่จะเข้าใจและทำได้จริงๆ แต่เราก็ต้องทำมันให้ได้ เพราะ “เรามี 24 ชั่วโมงเท่ากัน อยู่ที่ว่าใครจะปล่อยให้เวลาเสียไปเปล่าๆมากกว่ากัน....แล้วใครจะคว้าความฝันของเรามาให้เราถ้าเรายังไม่เริ่มไล่ตามมันด้วยตัวเอง”


ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังไล่ตามความฝันนะ

Wednesday, December 05, 2007

เรื่องเล่าจากแดน.....ที่มีมากกว่าพิซซ่าและหอเอน**4

AFS ที่อิตาลี จะมีช่วงสัปดาห์แลกเปลี่ยนระหว่างเขตเหนือ กับ ใต้ เพื่อให้นักเรียนแลกเปลี่ยนได้มีโอกาสสัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่างระหว่างชีวิตแบบชาวเหนือกับชาวใต้ ดิฉันได้ไปอยู่ที่เมือง Caserta เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องต่างๆมากขึ้น ทั้งเรื่องวัฒนธรรม ภาษา และผู้คน เมืองทางใต้ค่อนข้างจะมีประชากรมากกว่า แต่เมืองไม่สะอาดเท่ากับทางเหนือ คนทางใต้จะพูดเร็วมาก และมีภาษาถิ่น ดิฉันได้ไปเมือง Naples เมืองต้นกำเนิดพิซซ่าอิตาเลียน อาหารที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลก
ในเดือนเมษายนดิฉันเข้าร่วมโครงการ Rete Progetto Pace เป็นโครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้และโรงเรียนในประเทศแถบยุโปตะวันออก จึงทำให้ได้มีโอกาสไปเที่ยวในหลายประเทศ ตั้งแต่ สโลวาเนีย โครเอเชีย อัลบาเนีย กรีซ เซอร์เบีย และ มาเซโดเนีย พวกเรานำเสื้อผ้า อาหาร ขนม อุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์การเรียน และหนังสือ ไปให้ที่โรงเรียนต่างๆในแต่ละประเทศ ดิฉันได้เห็นผู้คนจำนวนมากที่ยังลำบากกว่าพวกเรา และต้องการความช่วยเหลือ ตอนที่พวกเราอยู่ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซนั้น ได้นำของไปบริจาคให้โบสถ์แห่งหนึ่ง บาทหลวงท่านมากล่าวขอบคุณด้วยตนเอง แล้วท่านก็พูดถึงเรื่องสงครามต่างๆ ที่ทำให้เกิดการสูญเสีย ที่ดิฉันประทับใจมากที่สุดคือ ท่านกล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นคนที่จนมากแค่ไหน หรือ รวยมากมายมหาศาล ก็ต้องการความรักจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันทั้งนั้น คนที่ต้องการความช่วยเหลือ สิ่งแรกที่พวกเราจะให้เขาได้แม้เราไม่มีเงิน ก็คือ ความรัก ความเห็นใจ จากใจจริง”
ถ้าพูดถึงการเอาใจใส่ และช่วยเหลือนักเรียนแลกเปลี่ยนแล้ว ดิฉันคิดว่า AFS ประเทศอิตาลีมีการเตรียมความพร้อมดีมากๆ เพราะในแต่ละจังหวัดจะดูแลนักเรียนของตนเอง มีการนัดพบกันเพื่อพูดถึงสิ่งที่เป็นปัญหาหรือสิ่งที่พวกเราอยากทำ และยังมีนักเรียนเก่าของ AFS เป็นที่ปรึกษาอีกหนึ่งคน รวมถึงที่โรงเรียนก็จะมีครูที่ปรึกษาประจำตัวเราโดยเฉพาะอีกหนึ่งคน มีการเข้าค่ายเมื่อมาถึงในช่วงเดือนแรกเพื่ออธิบายสิ่งต่างๆ ทั้งกฎ ระเบียบ และสอบถามความเป็นอยู่กับครอบครัว ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง ร่วมทั้งก่อนส่งพวกเรากลับบ้านก็จะมีค่ายเตรียมความพร้อมสู่การกลับบ้านของเราอีกคร้งหนึ่ง