เรื่องเล่าจากแดน.....ที่มีมากกว่าพิซซ่าและหอเอน**3
ที่ประเทศอิตาลีจะแบ่งโรงเรียนแผนกวิทยาศาสตร์- คณิตศาสตร์( Liceo Scientifico) แผนกด้านภาษา ( Liceo Lingiustico ) แผนกช่าง ( Instituto Tecnico ) ออกจากกัน และยังมีโรงเรียนที่สอนด้านจิตวิทยา ( Instituto della Psicologia) และ ด้านการประชาสัมพันธ์ ( Instituto Informatica ) รวมถึงโรงเรียนที่สอนด้านศิลปะ และภาษากรีก ( Liceo Classico ) ที่ดิฉันไปเรียน ชื่อ Liceo Scientifico Leonardo Da Vinci เป็นโรงเรียนที่มีเฉพาะแผนกวิทยาศาสตร์- คณิตศาสตร์ นักเรียนที่โรงเรียนจะต้องเรียนวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ปรัชญา ศาสนา ประวัติศาสตร์ศิลป์ การออกแบบ พลศึกษา ภาษาอิตาเลียน ภาษาลาติน ภาษาอังกฤษ และ ภาษาต่างประเทศอีกหนึ่งภาษา แต่ละชั้นปีจะมีห้องที่เรียนภาษาที่3 แค่ 2 ห้องเรียน ในโรงเรียนระดับ High School จะมีทั้งหมด 5 ปี การเรียนค่อนข้างหนัก เพราะหากสอบไม่ผ่านก็ต้องเรียนซ้ำชั้น และคะแนนทั้งหมดส่วนใหญ่มากจากการสอบข้อเขียน และสอบโดยการถาม- ตอบ หรื อธิบายหน้าชั้นเรียน นักเรียนที่อิตาลีจะค่อนข้างจริงจัง และตั้งใจเรียนมากเวลาอยู่ในชั้นเรียน โรงเรียนริ่มเวลา 08.15 น. และเลิกเวลา 13.10 น. หรือ 14.00 น. หลังเลิกเรียนส่วนใหญ่จะกลับบ้านก่อน เพราะต้องกลับไปกินข้าวเที่ยง หลังจากนั้นก็อ่านหนังสือ หรือทำการบ้าน แต่ถ้าไม่มีสอบในวันถัดไป ก็จะออกไปเดินเล่นในเมืองกันในตอนบ่ายหรือไปขับจักรยานเที่ยว วัยรุ่นอิตาลีค่อนข้างจะมีความรับผิดชอบสูง แต่ก็ขี้อาย บางคนก็แทบจะไม่พูดเลย แต่พอสนิทกันก็จะรู้ว่าที่จริงแล้วส่วนใหญ่คุยเก่ง คุยสนุก และอยากรู้เรื่องต่างๆมากมาย โดยเฉพาะเรื่องในประเทศแถบเอเชีย วันที่ไปโรงเรียนวันแรกๆ แทบจะไม่ได้คุยกับใครเลยเพราะเหมือนกับว่าเขาก็กลัวเรา เราก็กลัวเขา แต่หลังจากนั้นก็ต้องเริ่มพูดกับเพื่อนๆก่อน พอคุยกับคนแรกได้จากนั้นทุกคนก็จะเข้ามาคุยด้วยเรื่อยๆ และเพราะว่าดิฉันเปลี่ยนห้องเรียนบ่อย เพราะในชั้นเรียนประจำนั้นค่อนข้างจะยากเกินไป จึงทำให้ได้รู้จักครูและเพื่อนหลายคน เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ได้เรียนภาษาลาติน ที่รู้เรื่องไม่รู้บ้าง แต่ก็สนุกดี บางวิชาถ้าครูสอนจบแล้วก็จะให้ดิฉันออกไปเล่าเรื่องประเทศไทยให้เพื่อนๆฟัง โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ และวิชาศาสนา บางครั้งก็จะได้เจอกับคำถามที่แปลกๆ แต่ก็ทำให้เราได้รู้ว่าประเทศอื่นเขามองประเทศไทยอย่างไร การพูดคุยกับเพื่อนๆและคนอื่นบ่อยๆจะช่วยฝึกให้เราเรียนรู้ภาษาของเขาได้เร็วมากขึ้น เพื่อนๆและครูที่โรงเรียนให้ความช่วยเหลือด้านการเรียนที่โรงเรียน และการเรียนภาษาอิตาเลียนได้มากจริงๆ ดิฉันไปเที่ยวกับเพื่อนๆในชั้นเรียน ในช่วงทัศนศึกษา พวกเราเลือกไป Florence เป็นเมืองที่สวยมากๆ รวมศิลปะมากมายจากศิลปินระดับโลกมาไว้ที่นี้ Florence จึงได้ชื่อว่าเป็น นครแห่งศิลปะ และความเจริญทางวัฒนธรรมทางอิตาลีและประเทศแถบยุโรป และยังเป็นเมืองแห่งต้นกำเนิดภาษาอิตาเลียน พวกเราอยู่ที่นั้น 4 วัน แต่แล้ววันที่ 3 โดยที่ไม่มีใครคิดมาก่อน พวกเราทุกคนร่วมกันท้องเสีย โดยหาสาเหตุไม่ได้ บางคนก็บอกว่าเป็นเพราะอาหาร เพราะนม หรือ เพราะอากาศ ก็ยังไม่มีใครตอบได้ ทำให้วันนั้นต้องมีคนกลบไปนอนพักที่โรงแรมครึ่งวัน กว่าจะมีแรงลุกมาเดินเที่ยวกันอีกรอบ แต่ก็ไม่มีใครอารมณ์เสียกับเหตุการณ์นี้เลยแม้แต่คนเดียว ทุกคนหัวเราะและก็แกล้งถ่ายรูปเพื่อนๆที่หน้าห้องน้ำพิพิธพัณฑ์ที่เราไปกันตอนเช้า แล้วเราก็เดินทางกลับในวันสุดท้าย พอโรงเรียนเปิดในวันจันทร์ต่อมาพวกเราถูกถามเรื่องนี้กันหลายครั้งหลายหน ช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงสอบก่อนวันหยุดฤดูร้อนของที่อิตาลี เป็นช่วงเวลา 1 เดือนที่สนุกกับการอ่านหนังสือมากๆ หลังปิดเทอมแล้ว ในเดือนมิถุนายน พวกเราก็เลยมีเวลาไปเที่ยวเมืองใกล้ด้วยกัน อีกหลายครั้ง ตอนนี้โรงเรียนที่อิตาลีเปิดรียนในปีการศึกษา 2007 แล้วตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
0 Comments:
Post a Comment
<< Home