สงกรานต์ สนุก...สนุก... ( ภาคต่อ )
ขอโทษนะคะที่ทำให้รอคอยนาน สงกรานต์ สนุก...สนุก... ( ภาคต่อ ) มาแล้วคะ
ความเดิมตอนที่แล้วเราไปถึงที่โป๊ะกันแล้ว หลังจากเฝ้าสังเกตเหตุการณ์ความโกลาหลที่ก้นโป๊ะ ระหว่างที่ฝูงสัตว์น้ำต่างพากันหาทางรอดซึ่งไม่มีแล้วตอนนี้
ลูกเรือผู้ชำนาญการก็เร่งมือ ตักสารพัดสัตว์น้ำน้อยใหญ่ขึ้นไปบนเรือ เสียงฮือ...ฮา...ดังขึ้นเมือ่แมงกระพรุนตัวขาวและโตมาก ขนาดเท่าๆกับโต๊ะเรียนถูกเกี่ยวขึ้นเรือไป ตามไปด้วยหมึกกล้วย ปลาไหลทะเล ( ที่บางคนเถียงเสียงแข็งว่าเป็นงูทะเล) ปูม้าตัวเขื่องๆ ปลาต่างๆ และสุดท้ายพระเอกของงาน หรือดาราดังประจำโป๊ะเมืองแม่กลอง ปลาทู ตัวโตๆยังดิ้นๆอยู่เลย เวลาที่ปลาทูดิ้นลำตัวจะสะท้อนกับแสงแดดเป็นเงาวับๆสวยงามมากๆ วันนั้นนับได้หลายตะกร้า เกือบสิบเห็นจะได้ ถือว่าค่อนข้างเยอะพอควรนะ เอาละแล้วคราวนี้ก็ถึงเวลาว่าต่อจากคราวที่แล้ว
หลังจากนั้นบรรดาผู้ชมบนที่นั่งชั้นหนึ่ง First Class ก็ทยอยกันเคลื่อนตัวลงจากโป๊ะ เราก็รอเวลานี้มานานแล้วที่จะได้กระโดดลงน้ำ หลังจากตากแดดตากลมมานาน เราตั้งใจจะกระโดดลงจากโป๊ะไปเลยไม่รอให้กลับมาที่เรือก่อนแล้วค่อยลงน้ำ แต่แม่ห้ามไว้ก่อน เพราะกลัวจะมีตอใต้น้ำ แต่พ่อบอกว่าไม่มี เราก็เลยถามพี่ลูดเรือ ว่าตกลงแล้วมีตอรึไม่ เขาบอกว่าไม่มี แต่แม่ก็ไม่ให้โดด ระหว่างนั้นพี่วูด ( ลูกพี่ลูกน้องกัน ) ที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำสิ่งที่ฉันให้อภัยไม่ได้ คือ พี่ท่านกระโดดลงน้ำ พร้อมเสียงตะโกนดังลั่น ทำเอาคนทั้งในเรือ และบนโป๊ะตกใจไปตามกัน ตามมาด้วยเสียงน้ำกระจายตูมใหญ่ ตอนนั้นเองเรารู้สึกว่ายอมได้ไงไห้โดนตัดหน้า ต่อหน้าต่อตา พอพี่วูดโผล่ขึ้นพ้นน้ำ เราก็กระโดดตามลงไปเลย ความรู้สึกตอนรู้สึกเลยว่าหัวใจแทบหยุดเต้น ในชีวิตเรากระโดดมาเยอะ ทั้งเรือประมง สะพานคลองชลประทาน หอโดด 34 ฟุต แต่ไม่เคยรู้สึกว่าใจกระตุกขนาดนี้เลย คงเพราะระหว่างลอยอยู่ในอากาศเราเงยหน้าขึ้นมองฟ้าด้วย เลยไม่เห็นน้ำว่าจะถึงเมือ่ไหร่ พอลงมาถึงน้ำแล้วโผล่ขึ้นมา สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆ รีบปีนขึ้นเรือแล้ววิ่งขึ้นโป๊ะไปกระโดดลงมาใหม่อีกหลายรอบ ลืมบอกไปนิดนึงว่าโป๊ะสูงไม่แพ้หอโดดเลยล่ะ อาจจะเตี้ยกว่าสักนิด พักใหญ่เรือต้องย้ายที่จอดเพราะลมเปลี่ยนทาง จอดห่างโป๊ะออกไป เราก็เลยย้ายที่กระโดดจากบนโป๊ะไปเป็นบนดาดฟ้าเรือ มีเรื่องที่น่ากลัวกว่าโดดบนโป๊ะอีก เพราะที่ยืนแคบมากและก็ลื่นด้วย แม้จะสูงน้อยกว่าแต่อันตรายกว่า แต่เราก็โดดลงมาอย่างปลอดภัยกันทุกคน ระหว่างที่จอดเรือเล่นน้ำ แม่ครัว ( คุณแม่และคุณป้า ) ก็นำเอาอาหารทะเลสดมาต้มให้เราได้กินกันแก้หิว ทั้งหอยแมลงภู่ดำขึ้นมาสดๆจากเสาโป๊ะ กุ้ง ปู และกั๊งเนื้อหวานๆหอมกลิ่นทะเล ต้มไม่ต้องใส่เกลือเลยมีรสเค็มนิดๆอยู่แล้ว แถบจะไม่ต้องพึ่งพาน้ำจิ้มแต่อย่างได้ พวกเราเล่นน้ำกันอยู่หลายชั่วโมงตั้งแต่ก่อนเที่ยงจนเกือบๆบ่ายสามโมงเย็น ก็ขึ้นเรือกลับ ระหว่างทางกลับกิจกรรมการกินของเราก็ยังไม่หยุดลง หลังจากล้างตัวด้วยน้ำจือกันแล้วก็เอาดินสอพองพอกหน้า ( กันแสบและกันอาการหน้าลอก ) แล้วหลังจากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือนั่งรับลมปนตากแดดกันสักพักพอตัวเริ่มแห้ง ก็เล่นเกมส์ Rich คล้ายๆกับเกมส์เศราฐีละ แต่สนุกกว่าเยอะเลย เกมศืนี้ที่บ้านเราเล่นมาตั้งแต่เรา 6 ขวบนะที่จำได้ ไม่นานก็เห็นฝั่งแล้ว แค่ 2 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงบ้าน หลังจากขนของขึ้นจากเรือและเก็บของเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกไปเล่นสงกรานต์กันต่อ เป็นที่สนุกสนาน เฮฮา....
สงกรานต์ของเราปีนี้ผ่านไปอย่างสนุกสนานและคุ้มค่าจริงๆ ไปเที่ยวทะเล ได้กินอาหารทะเลสดๆ เล่นน้ำทะเล มีโป๊ะและดาดฟ้าเรือให้ทดสอบความกล้า
และที่สำคัญไม่ต้องรอรถติดอีกต่างหาก อิอิ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นบทเรียนคือ ผิวที่เปลี่ยนสีไปเพราะแดดและลมทะเลนี้สิ ไม่รู้เมื่อไหร่จะกลับมาขาวอย่างเดิม ( ซึ่งก็ไม่ได้ขาวมาก ) ทั้งที่ใส่เสื้อแขนยาวแล้วก็ตามแต่เสื้อมันคอกว้างไปนิดนี้สิ คอดำเป็นปลอกคอเลยล่ะ เพราะมั่วแต่ห่วงเกมส์ Rich แท้ๆเลยลืมเปลี่ยนเสื้อ คราวหน้าเราจะเปลี่ยนเสื้อก่อนแล้วค่อยวิ่งขึ้นบ้านไปยิบเกมส์
ขอให้ทุกคนมีความสุขนะคะ สวัสดีปีใหม่ไทย( ย้อนหลัง ) คะ
ความเดิมตอนที่แล้วเราไปถึงที่โป๊ะกันแล้ว หลังจากเฝ้าสังเกตเหตุการณ์ความโกลาหลที่ก้นโป๊ะ ระหว่างที่ฝูงสัตว์น้ำต่างพากันหาทางรอดซึ่งไม่มีแล้วตอนนี้
ลูกเรือผู้ชำนาญการก็เร่งมือ ตักสารพัดสัตว์น้ำน้อยใหญ่ขึ้นไปบนเรือ เสียงฮือ...ฮา...ดังขึ้นเมือ่แมงกระพรุนตัวขาวและโตมาก ขนาดเท่าๆกับโต๊ะเรียนถูกเกี่ยวขึ้นเรือไป ตามไปด้วยหมึกกล้วย ปลาไหลทะเล ( ที่บางคนเถียงเสียงแข็งว่าเป็นงูทะเล) ปูม้าตัวเขื่องๆ ปลาต่างๆ และสุดท้ายพระเอกของงาน หรือดาราดังประจำโป๊ะเมืองแม่กลอง ปลาทู ตัวโตๆยังดิ้นๆอยู่เลย เวลาที่ปลาทูดิ้นลำตัวจะสะท้อนกับแสงแดดเป็นเงาวับๆสวยงามมากๆ วันนั้นนับได้หลายตะกร้า เกือบสิบเห็นจะได้ ถือว่าค่อนข้างเยอะพอควรนะ เอาละแล้วคราวนี้ก็ถึงเวลาว่าต่อจากคราวที่แล้ว
หลังจากนั้นบรรดาผู้ชมบนที่นั่งชั้นหนึ่ง First Class ก็ทยอยกันเคลื่อนตัวลงจากโป๊ะ เราก็รอเวลานี้มานานแล้วที่จะได้กระโดดลงน้ำ หลังจากตากแดดตากลมมานาน เราตั้งใจจะกระโดดลงจากโป๊ะไปเลยไม่รอให้กลับมาที่เรือก่อนแล้วค่อยลงน้ำ แต่แม่ห้ามไว้ก่อน เพราะกลัวจะมีตอใต้น้ำ แต่พ่อบอกว่าไม่มี เราก็เลยถามพี่ลูดเรือ ว่าตกลงแล้วมีตอรึไม่ เขาบอกว่าไม่มี แต่แม่ก็ไม่ให้โดด ระหว่างนั้นพี่วูด ( ลูกพี่ลูกน้องกัน ) ที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำสิ่งที่ฉันให้อภัยไม่ได้ คือ พี่ท่านกระโดดลงน้ำ พร้อมเสียงตะโกนดังลั่น ทำเอาคนทั้งในเรือ และบนโป๊ะตกใจไปตามกัน ตามมาด้วยเสียงน้ำกระจายตูมใหญ่ ตอนนั้นเองเรารู้สึกว่ายอมได้ไงไห้โดนตัดหน้า ต่อหน้าต่อตา พอพี่วูดโผล่ขึ้นพ้นน้ำ เราก็กระโดดตามลงไปเลย ความรู้สึกตอนรู้สึกเลยว่าหัวใจแทบหยุดเต้น ในชีวิตเรากระโดดมาเยอะ ทั้งเรือประมง สะพานคลองชลประทาน หอโดด 34 ฟุต แต่ไม่เคยรู้สึกว่าใจกระตุกขนาดนี้เลย คงเพราะระหว่างลอยอยู่ในอากาศเราเงยหน้าขึ้นมองฟ้าด้วย เลยไม่เห็นน้ำว่าจะถึงเมือ่ไหร่ พอลงมาถึงน้ำแล้วโผล่ขึ้นมา สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆ รีบปีนขึ้นเรือแล้ววิ่งขึ้นโป๊ะไปกระโดดลงมาใหม่อีกหลายรอบ ลืมบอกไปนิดนึงว่าโป๊ะสูงไม่แพ้หอโดดเลยล่ะ อาจจะเตี้ยกว่าสักนิด พักใหญ่เรือต้องย้ายที่จอดเพราะลมเปลี่ยนทาง จอดห่างโป๊ะออกไป เราก็เลยย้ายที่กระโดดจากบนโป๊ะไปเป็นบนดาดฟ้าเรือ มีเรื่องที่น่ากลัวกว่าโดดบนโป๊ะอีก เพราะที่ยืนแคบมากและก็ลื่นด้วย แม้จะสูงน้อยกว่าแต่อันตรายกว่า แต่เราก็โดดลงมาอย่างปลอดภัยกันทุกคน ระหว่างที่จอดเรือเล่นน้ำ แม่ครัว ( คุณแม่และคุณป้า ) ก็นำเอาอาหารทะเลสดมาต้มให้เราได้กินกันแก้หิว ทั้งหอยแมลงภู่ดำขึ้นมาสดๆจากเสาโป๊ะ กุ้ง ปู และกั๊งเนื้อหวานๆหอมกลิ่นทะเล ต้มไม่ต้องใส่เกลือเลยมีรสเค็มนิดๆอยู่แล้ว แถบจะไม่ต้องพึ่งพาน้ำจิ้มแต่อย่างได้ พวกเราเล่นน้ำกันอยู่หลายชั่วโมงตั้งแต่ก่อนเที่ยงจนเกือบๆบ่ายสามโมงเย็น ก็ขึ้นเรือกลับ ระหว่างทางกลับกิจกรรมการกินของเราก็ยังไม่หยุดลง หลังจากล้างตัวด้วยน้ำจือกันแล้วก็เอาดินสอพองพอกหน้า ( กันแสบและกันอาการหน้าลอก ) แล้วหลังจากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือนั่งรับลมปนตากแดดกันสักพักพอตัวเริ่มแห้ง ก็เล่นเกมส์ Rich คล้ายๆกับเกมส์เศราฐีละ แต่สนุกกว่าเยอะเลย เกมศืนี้ที่บ้านเราเล่นมาตั้งแต่เรา 6 ขวบนะที่จำได้ ไม่นานก็เห็นฝั่งแล้ว แค่ 2 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงบ้าน หลังจากขนของขึ้นจากเรือและเก็บของเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกไปเล่นสงกรานต์กันต่อ เป็นที่สนุกสนาน เฮฮา....
สงกรานต์ของเราปีนี้ผ่านไปอย่างสนุกสนานและคุ้มค่าจริงๆ ไปเที่ยวทะเล ได้กินอาหารทะเลสดๆ เล่นน้ำทะเล มีโป๊ะและดาดฟ้าเรือให้ทดสอบความกล้า
และที่สำคัญไม่ต้องรอรถติดอีกต่างหาก อิอิ แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นบทเรียนคือ ผิวที่เปลี่ยนสีไปเพราะแดดและลมทะเลนี้สิ ไม่รู้เมื่อไหร่จะกลับมาขาวอย่างเดิม ( ซึ่งก็ไม่ได้ขาวมาก ) ทั้งที่ใส่เสื้อแขนยาวแล้วก็ตามแต่เสื้อมันคอกว้างไปนิดนี้สิ คอดำเป็นปลอกคอเลยล่ะ เพราะมั่วแต่ห่วงเกมส์ Rich แท้ๆเลยลืมเปลี่ยนเสื้อ คราวหน้าเราจะเปลี่ยนเสื้อก่อนแล้วค่อยวิ่งขึ้นบ้านไปยิบเกมส์
ขอให้ทุกคนมีความสุขนะคะ สวัสดีปีใหม่ไทย( ย้อนหลัง ) คะ
0 Comments:
Post a Comment
<< Home